อาคาร ตึกสูงใหญ่ ยิ่งพื้นที่กว้าง ยิ่งต้องใช้พลังงานและมีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่มากขึ้นตามขนาดพื้นที่
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมค่าไฟฟ้าของอาคารสูงตึกใหญ่ถึงสูงมาก?
เคยเข้าไปในตึกบางแห่งแล้วรู้สึกอึดอัดและไม่สบายตัวหรือเปล่า?
ทั้งหมดนี้อาจเกิดจากอากาศภายในอาคารที่ไม่ไหลเวียน หรือระบบปรับอากาศที่ไม่มีประสิทธิภาพ ที่นอกจากจะส่งผลต่อความรู้สึกของผู้ใช้งานอาคารแล้ว ยังส่งผลต่อต้นทุนด้านพลังงานที่สูง และการใช้พลังงานที่ไม่มีประสิทธิภาพนี้ยังสามารถสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
การสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นในช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ซึ่งภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นับเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีส่วนในการปล่อยคาร์บอนสูงถึง 40% จากการก่อสร้าง และการใช้งานอาคาร
ดังนั้นสำหรับเจ้าของอาคารยุคใหม่ ผู้บริหารองค์กร จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อโลกที่ดีกว่าให้คนรุ่นต่อไป
ทัช พร็อพเพอร์ตี้ ด้วยประสบการณ์ในการบริหารระบบวิศวกรรมอาคารครบวงจรกว่า 17 ปี ได้มีแนวคิดด้านการจัดการพลังงานในอาคารให้เกิดประสิทธิภาพ
นั้นถือเป็นภาระงานระยะยาวที่ต้องมีความต่อเนื่อง เป็นการคิดและกระบวนการจัดการแบบเป็นองค์รวม
โดยมีภาระงานที่เริ่มจากการเสนอให้มีการกำหนดนโยบายการใช้พลังงานในอาคาร/องค์กร การสำรวจระบบวิศวกรรมอาคารต่างๆ ภายในอาคาร การจัดทำแผนควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ระบบวิศวกรรมอาคาร การจัดทำแผนบำรุงรักษาระบบวิศวกรรมอาคาร ที่ส่งเสริมสอดคล้องกับการใช้พลังงาน เพื่อหาโซลูชันที่เหมาะสมมาดูแลในเรื่องมาตรการลดการใช้พลังงานในกระบวนการต่างๆ Energy Efficiency มากกว่าเพียงการมุ่งลดทอนปริมาณการใช้พลังงานหรือค่าไฟลงให้มากที่สุด
ปัจจุบันอาคารมีระบบ BAS เข้ามาใช้ในการช่วยบริหารจัดการระบบต่างๆภายในอาคาร โดยมีการควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะ (IoTs) เช่น ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบอำนวยความสะดวก ระบบสาธารณูปโภค ระบบกล้องวงจรปิด ระบบเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหว และระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติโดยรอบอาคาร
โดยระบบที่มักจะช่วยลดการใช้พลังงานอย่างชัดเจนมีดังนี้

1. ระบบบริภัณฑ์ไฟฟ้า
อาจจะมีการสำรวจและวางแผนการทำงาน โดยดำเนินการปรับเปลี่ยนแผนงานบำรุงรักษาประจำปีให้สอดคล้องกับสภาพของอุปกรณ์ และพิจารณานำเสนอปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ในบางระบบโดยใช้หลัก Life cycle เพื่อป้องกันปัญหาและผลกระทบต่อการใช้งานอาคาร
และมีการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ในอาคาร อาทิ
- มีการติดตั้งระบบเซนเซอร์จับความเคลื่อนไหวเปิด – ปิดไฟตามการใช้งาน
- มีการปรับเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED ในจุดสำคัญ ๆ ที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อลดค่าใช้จ่าย และมีอายุการใช้งานที่นานกว่า

2. ระบบปรับอากาศ
มีการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้เหมาะต่อการใช้งาน ใช้ระบบอัตโนมัติเปิด – ปิดแอร์กำหนดเวลาการใช้งานตามผู้ใช้ โดยปกติอาคารใช้งานเป็นระบบหล่อเย็น ซึ่งบางอาคารอาจเป็นรุ่นเก่า ที่อาจมีการใช้พลังงานมากเกินกว่าความจำเป็น ทัชฯ จะเข้าไปศึกษาระบบฯ จัดเก็บข้อมูล รวมทั้งหาเทคโนโลยีใหม่ๆ และแนวทางที่เหมาะสม สำหรับเข้ามาช่วยในการจัดการพลังงาน
ซึ่งระบบที่ใช้พลังงานสูงมากที่สุดของระบบวิศวกรรมอาคาร คิดเป็น 40% ของการใช้พลังงานทั้งหมดในอาคารคือ “ระบบปรับอากาศ” การนำระบบ VSD ( Variable Speed Drive ) มาใช้ในการควบคุมการทำงานเพิ่มเติมในการเดินระบบน้ำระบายความร้อน Cooling Tower ให้ทำงานสอดคล้องกับการทำงานของระบบปรับอากาศในแต่ละช่วงเวลานั้นๆ จึงตัวการสำคัญที่ทำให้ลดการสูญเสียค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจำนวนมากโดยไม่จำเป็น

3. ระบบบำบัดน้ำเสีย
น้ำเสียจากอาคารที่มีผู้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคอนโด ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน เป็นต้น มีความสกปรกสูงกว่าอาคารบ้านเรือนทั่วไป เนื่องจากมีน้ำเสียที่เกิดจากกิจกรรมที่หลากหลายกว่า จะต้องได้รับการบำบัดก่อนระบายสู่สิ่งแวดล้อม
โดยทั่วไปแล้วระบบที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากอาคาร มีทั้งการบำบัดทางกายภาพ และชีวภาพ ซึ่งได้แก่ บ่อดักไขมัน ระบบแอกติเวเต็ดสลัดจ์, ระบบเอสบีอาร์ และถังกรองไร้อากาศ เป็นต้น ซึ่งมีความสำคัญด้วยเป็นน้ำเสียที่เกิดจากการใช้น้ำในการอุปโภค บริโภคของผู้ที่อยู่ภายในอาคาร
เจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรและอัตราการใช้พลังงาน รวมถึงต้องควบคุมค่ามาตรฐานของน้ำเสียไม่ให้เกินตามที่กฎหมายกำหนด เป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง
สะท้อนให้เห็นว่า การลงทุนในการบริหารอาคารเพื่อประหยัดพลังงาน จะช่วยผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร และ ลดการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างมากในระยะยาว แลกกับการที่ต้องเพิ่มต้นทุนในการปรับเปลี่ยนระบบ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ
ทัชฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบวิศวกรรมอาคารครบวงจรพร้อมเป็นที่ปรึกษาการจัดทำระบบการจัดการพลังงาน 8 ขั้นตอน และที่ปรึกษาการจัดการพลังงานระบบปรับอากาศ (AIoT for Chiller Plant) ซึ่งเป็นบริการที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการอาคารได้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการอาคารซึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักทั้งธุรกิจอาคารสำนักงาน ธนาคารและการลงทุน ธุรกิจโรงพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า Community Mall
เนื่องจากสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 5-10% จึงคาดว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ เจ้าของอาคาร และผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
อาคารสูงตึกใหญ่ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานอาคารทั้งภายในอาคารและชุมชนโดยรอบ การออกแบบและบริหารจัดการอาคารให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้อาคาร ดึงดูดผู้เช่า และลดต้นทุนในการดำเนินงานได้อีกด้วย